ฐานข้อมูลส่งเสริมและยกระดับคุณภาพสินค้า OTOP

 

 

       ปัจจุบันการใช้พลาสติกยังคงเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ และยังไม่มีวิธีการใดสามารถกำจัดขยะพลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ขยะพลาสติกจำนวนมากถูกกำจัดไม่ถูกวิธี จากข้อมูลการสำรวจของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในประเทศไทย ปี 2558 พบว่า ขยะประมาณร้อยละ 10 ของขยะตกค้างที่ไม่ได้รับการกำจัดอย่างถูกวิธีจะถูกปล่อยลงมหาสมุทร คิดเป็น 50,000-60,000 ตันต่อปี หรือประมาณ 750 ล้านชิ้น โดยขยะถุงพลาสติกและหลอดพลาสติกพบมากเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ตามลำดับ
 
 
(ที่มา : http://www.moveworldtogether.com/TH/article-detail.php?ID=22)
 
       ทั้งนี้ ปัญหาขยะจากหลอดพลาสติกกำลังเป็นปัญหาใหญ่ของการจัดการขยะทั่วโลก เนื่องจากเป็นขยะพลาสติกขนาดเล็กที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว และย่อยสลายยากต้องใช้เวลามากถึง 200 ปี ซึ่งหากถูกลมและฝนพัดพาลงสู่ทะเล และแม่น้ำลำคลอง ขยะเหล่านี้ก็จะไหลลงไปกองรวมกันอยู่ในมหาสมุทร ส่งผลให้เต่า โลมา หรือสัตว์น้ำอื่นๆ กินเข้าไปจนเกิดอันตราย รวมทั้ง พลาสติกที่ปะปนอยู่ในระบบนิเวศทางทะเลจะละลายไมโครพลาสติกออกมาจนอาจทำให้เกิดผลกระทบต่อสัตว์น้ำและมนุษย์ที่บริโภคสัตว์น้ำนั้นได้
 
                                                           
 
(ที่มา : https://m.mgronline.com/greeninnovation/detail/9610000052319)
 
       ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารหลายๆ ประเทศได้ตระหนักและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงร่วมกันรณรงค์ให้ลดและเลิกใช้หลอดดูดน้ำพลาสติก โดยหันมาเลือกใช้หลอดดูดน้ำทางเลือกใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสามารถย่อยสลายได้ง่าย ทดแทนการใช้หลอดพลาสติก ซึ่งหลอดดูดน้ำทางเลือกใหม่ที่มักนิยมนำมาใช้กัน ได้แก่
       1. หลอดดูดน้ำ Lolistraw เป็นหลอดที่ผลิตจากวัสดุจากธรรมชาติ คือ สาหร่ายทะเล ซึ่งย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ จนไม่เหลือเศษขยะ รวมทั้งเป็นหลอดที่สามารถรับประทานได้ เพราะนอกจากมีสีสันที่สวยงามแล้วยังมีรสชาติให้เลือกหลากหลาย มีอายุการใช้งานได้นาน 24 ชั่วโมง และหากยังไม่ใช้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน 24 เดือน
       2. หลอดดูดน้ำจากไม้ไผ่ เป็นหลอดดูดน้ำชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เพราะมีรูปทรงกะทัดรัด มีความแข็งแรง และผลิตจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถใช้ดูดเครื่องดื่มต่างๆ ได้ดีเหมือนหลอดพลาสติกทั่วไป โดยหลอดดูดน้ำจากไม้ไผ่ 1 หลอด สามารถใช้ซ้ำได้ประมาณ 100 ครั้ง
 
                                                    หลอดดูดน้ำ Lolistraw                                                                                  หลอดดูดน้ำจากไม้ไผ่
 
                                                           
 
                         (ที่มา : https://www.ananda.co.th/blog/thegenc/lolistraw/)                                         (ที่มา : http://t.blogtamsu.video/9653.html)
 
       3. หลอดดูดน้ำจากก้านผักบุ้ง โดยผักบุ้งที่นำมาใช้เป็นหลอดดูดน้ำต้องผ่านการคัดเลือก และนำมาทำความสะอาดอย่างถูกวิธีด้วยการแช่ผักบุ้งในน้ำที่ผสมเบกกิ้งโซดา ประมาณ  15 นาที จากนั้นนำไปล้างน้ำสะอาดอีก 3 ครั้ง แล้วค่อยนำก้านผักบุ้งมาใช้เป็นหลอดดูดน้ำ สามารถใช้งานได้แค่ครั้งเดียว ซึ่งระยะเวลาย่อยสลายประมาณ 3-5 วัน
       4. หลอดดูดน้ำจากตะไคร้ เป็นหลอดดูดน้ำจากธรรมชาติที่หาได้ง่าย เนื่องจากลักษณะของตะไคร้มีความยาวตลอดต้น เปลือกแข็ง จึงเหมาะสำหรับใช้เป็นหลอดดูดน้ำได้อย่างเป็นดี และหลังจากใช้งานเสร็จสามารถนำมารวมกับขยะสดประเภทอื่นเพื่อนำมาทำเป็นปุ๋ยได้อีกด้วย
 
                                                  หลอดดูดน้ำจากก้านผักบุ้ง                                                                               หลอดดูดน้ำจากตะไคร้
 
                                                          
 
(ที่มา : https://www.idealize.co.th/blog/8-หลอดดูดน้ำ/)
 
       5. หลอดดูดน้ำจากเส้นพาสต้า ร้านอาหารในต่างประเทศนำเส้นพาสต้ามาใช้เป็นหลอดดูดน้ำแทนหลอดพลาสติก เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่หาซื้อง่าย ไม่ส่งผลต่อรสชาติของเครื่องดื่ม และไม่มีกลิ่นรบกวน รวมทั้งยังช่วยลดขยะที่มีมากเกินความจำเป็นในแต่ละวัน 
       6. หลอดดูดน้ำจากกระดาษชุบไข หลอดดูดน้ำชนิดนี้ผลิตมาจากกระดาษที่เคลือบทับอีกชั้นด้วยไขขี้ผึ้ง ถูกออกแบบมาสำหรับใช้แล้วทิ้ง ไม่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เนื่องจากมีความเปื่อยยุ่ย ทำให้ไม่สามารถแช่หลอดทิ้งไว้ในแก้วได้นาน ไม่สามารถล้างทำความสะอาดได้ แต่สามารถย่อยสลายได้ง่ายกว่าหลอดพลาสติก
 
                                                 หลอดดูดน้ำจากเส้นพาสต้า                                                                        หลอดดูดน้ำจากกระดาษชุบไข 
 
                                                        
 
                                (ที่มา : http://realmetro.com/หลอดเส้นพาสต้า/)                                (ที่มา : https://www.prachachat.net/public-relations/news-281946)
 
       7. หลอดดูดน้ำจากซังข้าว หลอดดูดน้ำชนิดนี้ถือเป็นผลพลอยได้จากการทำนา ในขั้นตอนของการเก็บเกี่ยว โดยการใช้หลอดดูดน้ำจากซังข้าวเป็นการช่วยลดขยะที่มีโอกาสลงไปสู่ท้องทะเลได้ดี ดังเช่นตัวอย่างของชุมชนเกาะยาวใหญ่ที่ผู้คนในเกาะปลูกข้าวไว้ทานเอง
       8. หลอดดูดน้ำที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ส่วนใหญ่เป็นหลอดดูดน้ำที่ผลิตขึ้นจากวัสดุสังเคราะห์ เพื่อให้สามารถทำความสะอาดแล้วใช้ซ้ำได้ เช่น หลอดพลาสติกแข็ง หลอดสแตนเลส หลอดซิลิโคน และหลอดแก้ว มักมีให้เลือกหลากหลายสีสัน 
 
                                                    หลอดดูดน้ำจากซังข้าว                                                                 หลอดดูดน้ำที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่
 
                                                                                   
 
(ที่มา : https://www.bluemochatea.com/2018/08/05/หลอดดูดทางเลือกใหม่ลดก/)
 
       การเลือกใช้หลอดดูดน้ำทางเลือกใหม่เหล่านี้นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังสามารถช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่มากเกินความจำเป็น  ดังนั้น หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันคนละเล็กละน้อยก็สามารถช่วยให้โลกของเราน่าอยู่ไปนานๆ อีกด้วย
 
เอกสารอ้างอิง
นิตยสารบ้านและสวน. 8 หลอดดูดน้ำทางเลือกใหม่เพื่อคนที่อยากหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อม. [ออนไลน์]  [อ้างถึงวันที่ 11 มีนาคม 2562]. 
       เข้าถึงจาก : http://www.baanlaesuan.com/112765/diy/easy-tips/reusable-straw
วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต). หลอดน้ำพลาสติก, ขยะชิ้นเล็ก ที่สังคมไม่ควรมองข้าม. [ออนไลน์] 
       [อ้างถึงวันที่ 11 มีนาคม 2562].  เข้าถึงจาก :http://www.moveworldtogether.com/TH/article-detail.php?ID=22
สรรพร  อุไรกุล. เสียงร่ำไห้จากมหาสมุทร: ความโหดร้ายของหลอดพลาสติกที่เราอาจละเลย.  [ออนไลน์]  [อ้างถึงวันที่ 11 มีนาคม 2562]. 
       เข้าถึงจาก : http://www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/blog/59982/
หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ. หลอดกาแฟรักษ์โลกทางเลือกใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม. [ออนไลน์]  [อ้างถึงวันที่ 11 มีนาคม 2562]. 
       เข้าถึงจาก : https://www.prachachat.net/public-relations/news-281946